
ประเพณีแข่งเรือยอกอง

ประเพณีการแข่งเรือยอกอง
จังหวัดนราธิวาสเป็นจังหวัดใต้สุดแดนสยามที่ตั้งอยู่ติดอ่าวไทยมีแม่น้ำ สำคัญ 3 สาย คือ แม่น้ำบางนรา แม่น้ำสุไหงโก-ลกและแม่น้ำสายบุรี ประชาชนจึงมีความผูกพันอันแน่นแฟ้นกับทะเลและแม่น้ำมาตั้งแต่อดีตเรือประมง จึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการประกอบอาชีพแต่เรือประมงที่นราธิวาสมีความ แตกต่างกับเรือประมงพี่น้องประชาชนในภาคใต้ตอนบนหรือภาคอื่นๆเพราะเรือประมง ของพี่น้องชาวจังหวัดนราธิวาส เรียกกันว่า “เรือกอและ”มีลักษณะสวยงาม เมื่อถึงเทศกาลวันฮารีรายอ หรือวันละศีลอดพี่น้องชาวไทยมุสลิมก็จะงดออกหาปลา แต่จะร่วมพิธีการศาสนาและมีการละเล่น มีมหรสพสนุกสนานครื้นเครงตลอดจนการจัดให้มีการ แข่งเรือกอและในหมู่พี่น้องชาวประมงบริเวณอ่าวซึ่งอยู่ติดกับหาดนราทัศน์ และมัสยิดกลางในปัจจุบันจึงสร้างความสนุกสนานให้แก่ผู้เข้าแข่งขันและผู้ชมเป็นอย่างมากแต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ประกอบกับสถานการณ์ทางสังคมและเศรษฐกิจเปลี่ยนไปประเพณีการแข่งขันเรือกอและ ดังกล่าวก็เสื่อมหายไประยะหนึ่ง
ต่อมาในปี พ.ศ 2516 หลังจากการก่อสร้างพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์เสร็จเรียบร้อยแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศาก็ได้เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรมณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์เป็นประทุกปี (ปี พ.ศ 2525 จนถึงปัจจุบัน ) ในการเสด็จมาแต่ละครั้งจะทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในจังหวันราธิวาสและจังหวัด ใกล้เคียงทุกหมู่เหล่าแม้จะเป็นถิ่นทุรกันดารเพียงใดพระองค์ก็เสด็จไปถึง อย่างไม่ย่อท้อและไม่หวั่นแกรงภยันตรายเพื่อรับทราบปัญหาของพสกนิกรพระองค์ ทรงวางโครงการน้อยใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้นยังความสงบสุขร่มเย็นโดยถ้วนหน้ากัน
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าฯดังกล่าวชาวนราธิวาสได้ตระหนักและระลึกถึง อยู่ตลอดเวลา ในปี พ.ศ 2518 ข้าราชการ พ่อค้าและประชาชนต่างเห็นพ้องต้องกันว่าสมควรจะจักให้มีการแข่งขันเรือกอและ ด้วยฝีพายและได้พระราชทานถ้วยรางวัลแกทีมเรือที่ชนะการแข่งขันด้วยนับตั้แต่ นั้นมาจังหวัดนราธิวาสได้จัดแข่งขันเรือกอและและชิงถ้วยพระราชทานเป็นประจำ ทุกปี
ใน พ.ศ 2522 จังหวัดนราธิวาสโดยนายชัดรัตนราชผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสในขณะนั้นก็ได้ ริเริ่มให้มีการแข่งขันเรือยาวขึ้นอีกประเภทหนึ่งแต่โดยเหตุที่จังหวัด นราธิวาสเรือยาวค่อนข้างหาได้ยากจึงได้เชิญเรือยาวจากจังหวัดชุมพรสุราษฏร์ ธานี และนครศรีธรรมราช เข้าร่วมแข่งขัน ส่วนอำเภอต่างๆ ของจังหวัดซึ่งมีฝีพายพร้อมแต่ไม่มีเรือยาวก็ได้หยิบยืมเรือจากจังหวัดดัง กล่าวส่งเข้าแข่งขันกันอย่างสนุกสนานจนกลายเป็นประเพณีการแข่งขันเรือกอและ และเรือยาวควบคู่กันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 จนเป็นประเพณีสืบเนื่องกันมา และในปี พ.ศ.2529 ได้เพิ่มการแข่งขันเรือยอกองอีก 1 ประเภทซึ่งเป็นเรือหาปลาขนาดเล็กของชาวประมงชายฝั่ง แต่เป็นการแข่งขันชิงถ้วยรางวัลจากผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งนี้เพื่อให้พี่ น้องประชาชนในพื้นที่ได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมและแสดงออกถึงความจงรัก ภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์